หลังจากการรอคอยอันยาวนานและข่าวลือมากมาย ในที่สุด OpenAI ก็ได้ประกาศเปิดตัว GPT Store ซึ่งเป็นยูทิลิตี้ที่จะช่วยขยายศักยภาพอันมหาศาลของ ChatGPT ที่มีอยู่แล้วให้กว้างขึ้น การเคลื่อนไหวครั้งนี้ยังถือเป็นก้าวสำคัญในโครงการ Copilot ที่ให้ผู้ใช้สามารถแชร์แชทบอทที่กำหนดเองและเสริมประสบการณ์ ChatGPT ได้
GPT Store ถือเป็นความสำเร็จที่โดดเด่นที่สุดของโปรแกรม GPT Builder ซึ่ง OpenAI ได้นำมาใช้งานจริงมาเกือบปีหนึ่งแล้ว ตามที่บริษัทระบุ มีการสร้าง GPT มากกว่า 3 ล้านรายการนับตั้งแต่มีการประกาศเมื่อเดือนพฤศจิกายน GPT Store เป็นสถานที่ส่วนกลางที่ให้ผู้ใช้ค้นพบและทดลองใช้แชทบอทที่มีประโยชน์ที่สร้างโดยผู้อื่น
หากพูดแบบง่ายๆ ผู้ใช้สามารถใช้ GPT Store เพื่อโพสต์แชทบอทที่กำหนดเองโดยอิงตามเทคโนโลยี OpenAI เพื่อดำเนินการงานเฉพาะ เช่น ป้อนข้อมูล ออกแบบ หรือการเขียนโปรแกรม...

นอกจากนี้ OpenAI ยังจะเปิดตัวโปรแกรมแบ่งปันรายได้เริ่มตั้งแต่ไตรมาสที่ 1 เป็นต้นไป โดยจะช่วยให้ผู้สร้างแชทบอทสามารถสร้างรายได้เพิ่มเติมตามการมีส่วนร่วมของผู้ใช้กับโมเดล GPT ที่กำหนดเอง GPT Store จะนำเสนอและไฮไลต์ส่วนสนับสนุนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในแต่ละสัปดาห์ อย่างไรก็ตาม หากต้องการสร้างแชทบอท GPT ของตัวเองและสร้างรายได้ ผู้ใช้จะต้องสมัครแพ็คเกจ GPT Plus ในราคา 20 ดอลลาร์ต่อเดือน
โดยรวมแล้ว GPT Store จะนำศักยภาพใหม่ๆ มากมายมาสู่ ChatGPT ขณะเดียวกันก็ขยายระบบนิเวศปัญญาประดิษฐ์ที่ OpenAI มุ่งเน้นสร้างขึ้นให้กว้างยิ่งขึ้น
นอกจากการ “เปิดตัว” GPT Store แล้ว OpenAI ยังเปิดตัว ChatGPT Team ซึ่งเป็น ChatGPT เวอร์ชันที่มุ่งเป้าไปที่สภาพแวดล้อมระดับองค์กรและองค์กรอีกด้วย บริษัทต่างๆ จะจ่ายค่าธรรมเนียมให้พนักงานของตนเพื่อใช้ ChatGPT ในที่ทำงาน โดยมีกลุ่มผู้ใช้สูงสุด 150 ราย ทีม ChatGPT สามารถให้ความสามารถที่เหมือนกับแพ็คเกจ Enterprise เช่น การเข้าถึงโมเดล AI ขั้นสูงเช่น GPT-4, DALL-E, การควบคุมการใช้ข้อมูล และการตั้งค่าความเป็นส่วนตัว
ค่าสมัครสมาชิกทีม ChatGPT อยู่ที่ 25 ถึง 30 เหรียญสหรัฐฯ ต่อผู้ใช้ต่อเดือน และจะเก็บข้อมูลของ OpenAI ไว้แยกจากกันอย่างสิ้นเชิง ดังนั้นข้อมูลใดๆ ที่ป้อนเข้าไปในแชทบอทจะยังคงเป็นส่วนตัวอย่างสมบูรณ์