Windows จะสร้างแคชเสมอเมื่อติดตั้งการอัปเดต Windows ดังนั้นการมีอยู่ของแคชจึงไม่ใช่ปัญหา ที่นี่ถือเป็นสถานที่จัดเก็บไฟล์การติดตั้งชั่วคราว อย่างไรก็ตาม หลังจากใช้การอัปเดต Windows 11 24H2 แล้ว จะไม่สามารถลบแคชนี้ออกได้
ตามข้อมูลล่าสุดของ Windows ผู้ใช้พยายามล้างแคชผ่านแผงควบคุม แต่ไม่สำเร็จ โดยแคชยังคงอยู่ในเครื่อง หลายๆ คนได้ลองวิธีอื่นๆ มากมายเพื่อล้างแคชการอัปเดต Windows แต่ก็ล้มเหลว ในปัจจุบัน หากต้องการลบโฟลเดอร์นี้ ผู้ใช้มีทางเลือกเพียงทางเดียวเท่านั้น นั่นคือติดตั้ง Windows เวอร์ชันใหม่ทั้งหมด
ขณะนี้ Microsoft ได้รับการแจ้งเตือนเกี่ยวกับข้อผิดพลาดนี้แล้ว แพตช์จะถูกนำไปใช้เป็นส่วนหนึ่งของการอัปเดตที่กำลังจะมีขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหานี้
นี่ไม่ใช่ข้อบกพร่องเดียวที่ปรากฏขึ้นมาในการอัปเดต Windows 11 24H2 ก่อนหน้านี้มีรายงานว่าการอัพเดตนี้ทำให้เกิด "หน้าจอสีฟ้าแห่งความตาย" (BSOD) อีกด้วย ข้อบกพร่องอีกประการหนึ่งที่ได้รับรายงานใน Windows 11 24H2 คือเคอร์เซอร์เมาส์หายไปในช่องป้อนข้อความ ซึ่งเกิดขึ้นใน Google Chrome, Microsoft Edge, Slack, Spotify พร้อมทั้งแอปอื่นๆ ที่ใช้ Chromium อีกหลายตัว
การอัปเดต Windows 11 ใหม่ทำให้คอมพิวเตอร์รีสตาร์ทอย่างต่อเนื่อง
Microsoft ได้ออกคำเตือนถึงผู้ใช้ Windows 11 ว่าการอัปเดต KB5043145 อาจทำให้คอมพิวเตอร์บางเครื่องรีสตาร์ทซ้ำๆ หรือไม่ตอบสนอง
คอมพิวเตอร์ที่เสียหายจะแสดงข้อผิดพลาดสีน้ำเงินหรือสีเขียว บางครั้งอาจเกิดจากเครื่องมือการซ่อมแซมอัตโนมัติของ Windows หรือการกู้คืน BitLocker
ข้อผิดพลาดหน้าจอสีน้ำเงินแห่งความตายมักเป็นฝันร้ายสำหรับผู้ใช้ Windows หลายๆ คน
ขอบเขตของผลกระทบและสาเหตุของเหตุการณ์ยังคงไม่ทราบแน่ชัด Microsoft กล่าวว่าบริษัทกำลังดำเนินการสืบสวนและจะแจ้งข้อมูลอัปเดตให้ผู้ใช้ทราบเมื่อมีข้อมูลเพิ่มเติม
ตามรายงานของ ZDNet ปัญหาที่คอมพิวเตอร์ที่ใช้อัปเดต Windows 11 ใหม่แล้วรีบูตซ้ำๆ จะส่งผลต่อผู้ใช้เพียงกลุ่มหนึ่งเท่านั้น Microsoft ได้ชี้แจงว่าระบบที่ได้รับผลกระทบคือ Windows 11 22H2: Enterprise และ Education และ Windows 11 23H2
การเข้ารหัส BitLocker นั้นมีให้ใช้เฉพาะบน Windows 11 Pro, Windows 11 Enterprise และ Windows 11 Education เท่านั้น ดังนั้นผู้ใช้ Windows 11 Home น่าจะปลอดภัยจากปัญหานี้